จากโรงงานสู่ท่าเรือ: กระบวนการจัดส่งสินค้าระหว่างประเทศจากไทยโดยเรือบรรทุกสินค้า  , undefined

จากโรงงานสู่ท่าเรือ: กระบวนการจัดส่งสินค้าระหว่างประเทศจากไทยโดยเรือบรรทุกสินค้า

August 6, 2025

จากโรงงานสู่ท่าเรือ: กระบวนการจัดส่งสินค้าระหว่างประเทศจากไทย

ในโลกของการค้าระหว่างประเทศ การจัดส่งสินค้าจาก “โรงงาน” ไปถึง “ท่าเรือ” ถือเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จของธุรกิจส่งออกอย่างมาก โดยเฉพาะในประเทศไทยที่เป็นหนึ่งในศูนย์กลางการผลิตสินค้า OEM, อาหารแช่แข็ง, สมุนไพร และสินค้าบรรจุภัณฑ์ระดับโลก

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก “กระบวนการจัดส่งสินค้าระหว่างประเทศ” ตั้งแต่ขั้นตอนภายในโรงงาน ไปจนถึงการนำส่งที่ท่าเรือ พร้อมคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์อย่าง V PLUS EXPERT

✅ ขั้นตอนที่ 1: การตรวจสอบสินค้าและการจัดเตรียมเอกสาร

ก่อนเริ่มการขนส่ง สินค้าจะต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพ (QC) ภายในโรงงานเพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า:

  • ตรงตามสเปกและปริมาณที่ตกลงไว้
  • มีบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมต่อการขนส่งระยะไกล
  • มีเครื่องหมาย / ฉลาก / เลเบลที่ถูกต้องตามข้อกำหนดประเทศปลายทาง

หลังจากนั้นจะต้องเตรียมเอกสารประกอบ เช่น:

  • ใบกำกับสินค้า (Commercial Invoice)
  • รายการบรรจุภัณฑ์ (Packing List)
  • ใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (Certificate of Origin)
  • เอกสารเฉพาะทาง เช่น Health Certificate (สำหรับอาหาร), MSDS (สำหรับสารเคมี)

✅ ขั้นตอนที่ 2: การบรรจุสินค้า (Packing)

การบรรจุสินค้าที่ดีจะช่วยลดความเสียหายระหว่างขนส่ง โดยเฉพาะหากใช้การขนส่งทางทะเล ซึ่งอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์

  • ควรเลือกใช้กล่อง / ลัง / พาเลท ที่แข็งแรง
  • ใช้วัสดุกันกระแทก (เช่น โฟม, พลาสติกกันกระแทก)
  • สำหรับสินค้าควบคุมอุณหภูมิ เช่น อาหารแช่แข็ง ต้องใช้ตู้แช่และระบบควบคุมอุณหภูมิอย่างแม่นยำ

✅ ขั้นตอนที่ 3: การจองพื้นที่ขนส่ง (Booking Shipping Space)

ผู้ส่งออกหรือตัวแทนโลจิสติกส์ (Freight Forwarder) จะทำการจองตู้คอนเทนเนอร์หรือตำแหน่งบนเครื่องบิน/เรือขนส่ง

  • สำหรับสินค้าปริมาณมาก: จองตู้คอนเทนเนอร์ (FCL – Full Container Load)
  • สำหรับสินค้าปริมาณน้อย: แชร์พื้นที่กับผู้อื่น (LCL – Less than Container Load)

การจองล่วงหน้าเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะในช่วง high season ที่พื้นที่ขนส่งอาจเต็มเร็ว

✅ ขั้นตอนที่ 4: การจัดการเอกสารศุลกากร (Customs Clearance – ฝั่งไทย)

ก่อนส่งออกสินค้า จะต้องผ่านขั้นตอนศุลกากร ซึ่งประกอบด้วย:

  • การยื่นแบบฟอร์มผ่านระบบออนไลน์ (เช่น e-Customs)
  • ตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่ศุลกากร
  • การชำระค่าภาษี (ถ้ามี)

บริษัทผู้ส่งออกมักใช้บริการ “ชิปปิ้ง” หรือ “ตัวแทนออกของ” ที่มีประสบการณ์ในการจัดการเอกสารให้ครบถ้วนและถูกต้อง

✅ ขั้นตอนที่ 5: การขนส่งจากโรงงานไปยังท่าเรือ (Inland Transportation)

เมื่อเอกสารพร้อม และตู้คอนเทนเนอร์ได้รับการจัดสรรเรียบร้อยแล้ว จะมีการขนส่งสินค้าจากโรงงานไปยังท่าเรือหลัก เช่น:

  • ท่าเรือแหลมฉบัง (Laem Chabang Port)
  • ท่าเรือคลองเตย (Klong Toey Port)
  • สนามบินสุวรรณภูมิ (สำหรับ Air Freight)

โดยใช้รถบรรทุกหรือรถพ่วงที่เหมาะกับลักษณะสินค้า เช่น รถห้องเย็นสำหรับอาหารแช่แข็ง

✅ ขั้นตอนที่ 6: การโหลดสินค้าลงเรือ / เครื่องบิน (Loading & Departure)

หลังจากสินค้าถึงท่าเรือ จะมีการโหลดตู้คอนเทนเนอร์ขึ้นเรือหรือเครื่องบินตามรอบที่กำหนด และจะได้รับ:

  • ใบตราส่งสินค้า (Bill of Lading / Airway Bill)
  • แจ้งหมายเลขตู้ / วันออกเดินทาง / Estimated Time of Arrival (ETA)